[พรีวิว] สัมผัสแรก Dragon Quest III HD-2D Remake

จากวันแรกที่ Dragon Quest ได้กรุยทางสู่การพัฒนาเกมรูปแบบสวมบทบาทบนอุปกรณ์คอนโซลในสไตล์ญี่ปุ่นที่เต็มไปด้วยเรื่องราวของความฝันแห่งเด็กหนุ่มที่อยากลองเป็นฮีโร่หรือผู้กล้า จนถึงวันนี้ที่แฟรนไชส์ได้ขยับขยายสู่รูปแบบเกมเพลย์และประสบการณ์ใหม่ๆ ก็ต้องยอมรับเลยว่ามีความสนุกมากมายที่ถูกถ่ายทอดออกมาให้ผู้เล่นได้ลองเล่นผ่านมือ กระนั้นแล้วภาพความทรงจำของดินแดนแฟนตาซีสุดมหัศจรรย์ก็ยังคงอยู่ในใจของเราเสมอมา

แน่นอนว่า​ ณ ตอนนี้ ไม่มีวิธีใดที่จะนำความหลังเหล่านี้กลับมาเนรมิตขึ้นมาใหม่ได้ตรงใจกับแฟนเกมมากที่สุดเทียบเท่ากับ Dragon Quest III ในรูปแบบกราฟิก HD-2D ที่ผสมผสานความเป็นเกมเรโทรต้นฉบับเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ซึ่งในการเปิดตัวครั้งแรกเมื่อไม่กี่ปีก่อนก็ทำให้หลายคนทั้งเด็กรุ่นใหม่และเด็กหนวดรุ่นเก๋าก็ถึงกับน้ำตารื้น ก่อนที่จะซุ่มไปพัฒนากันยาวๆ ทั้งนี้ในที่สุดการรอคอยก็กำลังจะสิ้นสุดลงเพราะอีกไม่นานเราก็จะได้เล่นกันแล้ว โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ThisIsGame Thailand ก็ไม่พลาดจะได้รับโอกาสจาก Square Enix และ Bandai Namco Entertainment Asia ในการเข้าร่วมการพรีวิวเพื่อนำความประทับใจมาฝากเรียกน้ำย่อยก่อนใครด้วย

ในระยะเวลาสามชั่วโมงที่เราได้มีโอกาสทดสอบจะมีการแบ่งเกมออกเป็นสามส่วนใหญ่ๆ โดยช่วงแรกก็จะเป็นวินาทีเปิดเกมเลยครับ นั่นคือเมื่อเราได้ฟื้นขึ้นมากลางป่าแห่งหนึ่งก่อนที่จะต้องเดินขึ้นไปยังหน้าผาที่มีน้ำตกเพื่อเข้าสู่ช่วงตอบคำถามตามการตั้งค่าวันเกิด และคำถามเหล่านี้จะส่งผลต่อลักษณะนิสัยของตัวละครที่มีมากกว่า 40 แบบ และทุกแบบจะมีผลกับสเตตัสการปั้นตัวละครด้วย จุดแรกที่สังเกตได้นอกจากงานภาพที่ตกแต่งใหม่ด้วยรูปแบบ HD-2D ก็คือ เกมได้นำเสนอหน้าจอแจ้งเตือน QoL เพื่อปรับมาตรฐานเกม นั่นคือการปรับความเร็วการเดินที่สามารถกดปุ่มค้างเพื่อวิ่งได้แล้ว (เย้!) นอกจากนี้ยังกดปรับความเร็วการแสดงข้อความแบบเร็วปรู๊ดได้ด้วย

จากนั้นเกมจะพาเราเข้าสู่ช่วงเวลาปัจจุบัน โดยหลังจากจุดนี้จะเริ่มมีอีกหนึ่งความเปลี่ยนแปลง นั่นคือไดอะล็อกการจะมีการให้เสียงพากย์เต็มตัวแล้วทั้งญี่ปุ่นและอังกฤษ งานพากย์ถือว่าใช้ได้เลยครับ พอออกจากบ้านมาจะได้เห็นกับบ้านเกิดของตัวเองที่มีเพลงเล่นบรรเลงแบบ Full Orchestra ด้วยครับ อีกทั้งแน่นอนว่าเมื่อฉากหลังเป็นกราฟิกแบบสามมิติ ก็เลยยิ่งใส่รายละเอียดอื่นๆ มาได้มากขึ้น อย่างเช่นพื้นถนนหนทางอาจจะมีนกเป็นกลุ่มยืนกันอยู่ เมื่อเดินใกล้ๆ ก็จะบินหนีไป เช่นเดียวกับแม่น้ำลำธารที่เมื่อไปยืนใกล้ๆ ก็ได้ยินเสียงน้ำไหล ส่วนเหล่านี้ทำให้เกมดูทันสมัยมากขึ้น แต่จะขาดไม่ได้เลยกับ QoL ที่อย่างที่บอกไปว่าช่วยให้เกมทันสมัยมากขึ้น เพราะยังมีในส่วนของแผนที่ และเมนูการเทเลพอร์ต (เวทย์ Zoom) ไปจนถึง Recall ที่เป็นฟังก์ชันที่ผมก็ชอบ จุดนี้คือการย้อนความหลังเส้นทางหรืออีเวนต์ที่เราผ่านมา

ส่วนต่อมาที่เราได้ทดลองก็คือการเดินทางในหอคอย Skyfell Tower โดยเป็นหอคอยขนาดใหญ่ที่มีมอนสเตอร์แข็งแกร่งมากมายให้ได้ปะทะกัน แต่ไม่ต้องกังวลไปปาร์ตี้ของเราก็มีครบทั้งสายบู๊ตัวเอกและสายซัพพอร์ตที่คอยให้การช่วยเหลือ และในที่แห่งนี้เราก็ได้ทดสอบระบบการต่อสู้เป็นครั้งแรกครับ เมื่อเข้าสู่ช่วงแบทเทิลเราจะเห็นว่ามีการผสมผสานทั้งความคลาสสิกและมุมกล้องใหม่ ซึ่งช่วงป้อนคำสั่งจะเป็นการฉายภาพจากด้านหลังของเหล่าฮีโร่ที่เผชิญหน้ากับมอนสเตอร์ เมื่อป้อนคำสั่งเสร็จก็จะตัดไปเป็นมุมกล้องด้านหน้าที่เห็นศัตรูแบบเต็มๆ

สิ่งที่ชอบก็คือการที่เกมปรับความเร็วให้ทันใจมากขึ้นเพราะในเมื่อเป็นเทิร์นเบสแถมยังมีความเป็น RPG จ๋าๆ แบบนี้ เราก็จะต้องเจอกับคำสั่งแบบ text ที่ขึ้นมาเรื่อยๆ ด้วยจังหวะที่ค่อนข้างช้าหากเทียบกับเกมปัจจุบัน แต่เกมสามารถกดปรับความเร็วในส่วนแบทเทิลได้ถึงสามระดับ คือระดับเริ่มต้น ระดับเร็วปานกลาง และ Ultra Fast ที่ทุกอย่างจะรันได้แบบทันใจกว่าเดิมมากขึ้น ผมว่าระดับที่สามนี่แหละที่จะทำให้เกมดูมีความตื่นเต้นรวดเร็ว ไม่รู้สึกสร้างกำแพงให้คนภายนอกมองว่าง่วงๆ อีกต่อไปครับ

ส่วนสุดท้ายที่เราได้เล่นกันก็คือระบบ Monster Arena ที่เป็นเกมเพลย์ใหม่แกะกล่องเพิ่งใส่เข้ามาเป็นกิจกรรมเสริม โดยภาครีเมคนี้ระหว่างการเดินทางผู้เล่นจะสามารถรีครูตมอนสเตอร์เข้ามาในทีมได้ด้วย โดยทุกตัวจะมีเงื่อนไขที่ไม่เหมือนกัน เช่นต้องเจอตอนกลางวันเท่านั้น (ใช่ครับ เกมนี้มี Day-night Cycle ที่ส่งผลกับพฤติกรรม หรือตำแหน่งของ NPC ที่ปรากฏตัว) หรือเคยทำภารกิจใดๆ มาก่อน โดยในเมือง Romaria จะมีสมรภูมิรบมอนสเตอร์ที่เราเข้าไปลงทะเบียนเล่นกันได้ รวมๆ จะคล้ายกันกับโหมดแบทเทิลทั่วไป ทว่าเราไม่สามารถบังคับ ตั้งค่าสกิลของมอนสเตอร์ได้ ทำได้แค่เลือกคำสั่งให้มันตีกันกับศัตรู เมื่อชนะก็จะได้รางวัล และยังไต่แรงค์ในเกมได้ด้วยครับ

เห็นได้ว่าเป็นการกลับมาที่สมบูรณ์แบบ และอย่าลืมว่าเกมนี้เคยเป็นปรากฏการณ์ครั้งใหญ่ตั้งแต่การวางจำหน่ายถึงความมาก่อนกาล เมื่อหยิบมาปัดฝุ่นเล็กน้อยมาตรฐานของมันก็พร้อมที่จะยืนอยู่ในฐานะเรือธงแถวหน้าสบายๆ แถมในปีหน้าเองก็ยังมีภาค 1 กับ 2 ที่รอคอยอยู่ด้วย เมื่อนำภาค 3 ที่แม้ตามลำดับจะเป็นไตรภาคลำดับสุดท้าย แต่ก็เป็นเรื่องราวที่ปูพื้นฐานสู่เกมภาคแรกต่อด้วย จะว่าเกมนี้คือจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับมือใหม่ก็ไม่น่าแปลกใจครับ คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

Dragon Quest III HD-2D Remake จะเปิดตัวบน PlayStation 5, Xbox Series X|S, Nintendo Switch และ PC ในวันที่ 14 พฤศจิกายนนี้ ดังนั้นรอกันอีกไม่นานแล้วนะครับ โดยผู้ที่สนใจสามารถสั่งจองล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเพื่อรับโบนัสพิเศษเป็นไอเทมชุด trouble-free travel kit ซึ่งจะมีสิ่งของอำนวยความสะดวกในการเล่นเกมช่วงแรก สำหรับโอกาสหน้า ThisIsGame Thailand จะมีอะไรมาแบ่งปันอีกอย่าลืมติดตามกันที่นี่เช่นเคยครับผม

Dragon Quest III Dragon Quest III: HD-2D Remake Square Enix Tokyo Game Show 2024

Related Posts